วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2561

Record 2 Monday 22 January 2018

Record 2
Monday 22 January 2018
Knowledge
การเรียนการสอนในวันนี้เป็นการนำเสนอเรื่องที่อาจารย์มอบหมายให้แต่ละกลุ่มนำเสนองานหน้าชั้นเรียน หัวข้อเรื่องดังนี้
  • พัฒนาการตามวัยของเด็กปฐมวัย  
  • ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย 
  • การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย 
  •  รูปแบบการเรียนรู้แบบโครงการ 

กลุ่มที่ 1 เรื่องพัฒนาการตามวัยของเด็กปฐมวัย กลุ่มของดิฉัน







การจัดการศึกษาในลักษณะของการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาเด็กจะได้รับการพัฒนาทางด้านร่างกาย อารมณจิตใจ สังคม และสติปัญญา ตามวัยและความสามารถของเด็กแต่ละคน
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 พัฒนาขึ้นบนแนวคิดหลักสำคัญเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัย การทำงานของสมอง การเรียนรู้และการเล่นของเด็ก โดยหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยฉบับนี้จึงถือ “การเล่น”อย่างมีจุดมุ่งหมาย เป็นหัวใจสำคัญของการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กให้เด็กเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า โดยครูจำเป็นต้องเข้าใจและยอมรับว่าสังคมและวัฒนธรรมที่แวดล้อมตัวเด็กว่ามีอิทธิพลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน

แนวคิดเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก

พัฒนาการของมนุษย์เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในตัวมนุษย์เริ่มตั้งแต่ปฏิสนธิไปจนตลอดชีวิตซึ่งครอบคลุมการเปลี่ยนแปลงในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาของเด็กแต่ละคนจะมีลำดับขั้นตอนลักษณะเดียวกันแต่อัตราและระยะเวลาในการผ่านขั้นตอนต่าง ๆอาจแตกต่างกันได้ ขั้นตอนแรก ๆ จะเป็นพื้นฐานสาหรับพัฒนาการขั้นต่อไป



มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของเด็กปฐมวัย
พัฒนาการของเด็กปฐมวัยนั้นได้อ้างอิงมาจากหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ซึ่งจะประกอบไปด้วย พัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา

http://www.escd.or.th/data/2017/kin_curriculum2560.pdf

ข้อเสนอแนะของอาจารย์ : ให้เปรียบเทียบพัฒนาการของเด็กปฐมวัยในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2546 กับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2560 ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? อาจมีข้อแตกต่างเล็กน้อย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือพัฒนาการของเด็กปฐมวัยแต่ละช่วงวัยนั้นเราควรศึกษาไว้เพื่อออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กปฐมวัยนั่นเอง

กลุ่มที่ 2 ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย





       เด็กปฐมวัยเป็นวัยเริ่มต้นของชีวิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความเป็นมนุษย์  การสร้างรากฐานที่ดีทั้งทางร่างกาย และจิตใจให้กับเด็กในวันนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะช่วงอายุแรกเกิด ถึง6 ปีเป็นระยะที่มีความสำคัญช่วงหนึ่งในการวางรากฐานคุณภาพชีวิตของเด็ก ด้วยเหตุที่เด็กปฐมวัยมีธรรมชาติและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากบุคคลวัยอื่นๆ
ความต้องการ
      ความต้องการเป็นสิ่งจาเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ความต้องการเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดความสมดุล  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทาให้ร่างกายเกิดความเครียด ไม่เป็นสุข ดังนั้นร่างกายจึงต้องมีการกระทำเกิดขึ้นเพื่อให้ร่างกายกลับสู่สภาวะสมดุลตามปกติ

ชนิดของความต้องการ
1.ความต้องการของแต่ละคน (Individual Needs )
       - ความต้องการทางอินทรีย์
       - ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
2 ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
       - ความต้องการที่จะรักคนอื่นและให้คนอื่นรักตน
       - ความต้องการความปลอดภัย
       - ความต้องการการมีส่วนร่วม หรือเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
       - ความต้องการความสัมฤทธิ์ผลหรือต้องการให้บรรลุจุดมุ่งหมายของตน
       - ความต้องการรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาสติปัญญา
       - ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงจากสภาพที่อยู่ปกติให้เป็นสภาพใหม่
       - ความต้องการที่จะรับความพึงพอใจในทางสวยงาม
ความต้องการทางสังคม (Social Need)
         ได้แก่ ความต้องการความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ การนับหน้าถือตา ความนิยมชมชื่น ความเป็นมิตรภาพต่อกัน และความต้องการในสมบูรณาการ (Integration) ซึ่งเป็นความต้องการ  ที่เป็นความสุขของชีวิตตามอุดมคติ
  • ความต้องการของเด็กปฐมวัย
  • ความต้องการพื้นฐานทางกาย เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่
  • ความต้องการความอิสระ ควบคู่ไปกับความต้องการพื้นฐานทางกาย
  • ความต้องการผลสัมฤทธิ์ มักจะต้องการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น
  • ความต้องการประสบการณ์ที่ท้าทาย
  • ความต้องการมีเพื่อน เด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ชอบอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น
       เด็กปฐมวัยจะมีความใจอยู่ช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 2-3 นาทีตามวัยของเด็ก หากเราจะจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการขอเด็กปฐมวัย และอยากให้เด็กสนใจและเกิดความต้องการเราต้องศึกษาสิ่งที่เด็กสนใจ หรือวิธีการเรียนรู้ของเด็ก นั่นก็คือการที่เด็กได้เป็นผู้ปฏิบัติเอง ได้ลงมือทำเอง เป็นต้น

ข้อเสนอแนะของอาจารย์ : ความสนใจของเด็กนั้นส่วนใหญ่อยู่กับการเล่นและรับประสบการณ์ทางตรง ให้หาทฤษฎีเพิ่มเติม

กลุ่มที่ 3 การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย








          การเรียนรู้ หมายถึง การเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์ที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม หรือจากการฝึกหัด รวมทั้งการเปลี่ยนปริมาณความรู้ของผู้เรียน    

มีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ 
              1) มนุษย์ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจาก ไม่รู้” เป็น รู้”  ทำไม่ได้ เป็น ทำได้” “ไม่เคยทำ” เป็น ทำ” 
              2) การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนั้นต้องเป็นไปอย่างถาวร 
              3) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้น เกิดจากประสบการณ์การฝึกฝนและการฝึกหัด ไม่ใช่จากเหตุอื่นๆนอกจากนั้น

ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจท์
       เพียเจท์  กล่าวถึง การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดจากการทำงานของโครงสร้างทางปัญญา เป็นวิธีที่เด็กจะเริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับสิ่งแวดล้อม เพียเจท์ได้มองการเล่นเป็นกระบวนการพัฒนาทางสติปัญญา ซึ่งกระบวนการพัฒนาทางสติปัญญา และลักษณะของการเล่นนั้น จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  เพียเจท์ได้แบ่งพัฒนาการทางสติปัญญาออกเป็น  4  ขั้น
       1.  ขั้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว
       2. ขั้นความคิดก่อนปฏิบัติการ
       3. ขั้นปฏิบัติการคิดแบบรูปธรรม
       4. ขั้นปฏิบัติการคิดแบบนามธรรม

ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของไวกอสกี้
       กล่าวว่า เด็กจะเกิดการเรียนรู้  พัฒนาสติปัญญาและทัศนคติเมื่อมีการปฏิสัมพันธ์และทำงานร่วมกับผู้อื่น  หากเด็กต้องเผชิญกับปัญหาที่ท้าทายแต่ไม่สามารถคิดแก้ปัญหาโดยลำพัง  แต่ถ้าได้รับการช่วยเหลือแนะนำจากผู้ใหญ่หรือเพื่อนที่มีประสบการณ์มาก่อน  เด็กจะสามารถแก้ปัญหานั้นและจะเกิดการเรียนรู้ได้

ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของบรูเนอร์
       เชื่อว่า ครูสามารถจัดประสบการณ์ให้กับเด็กปฐมวัยเพื่อให้เด็กเกิดความพร้อมที่จะเรียนได้ โดยต้องคำนึงถึงทฤษฎีพัฒนาการว่าเป็นตัวเชื่อมระหว่างความรู้และการสอน กล่าวคือพัฒนาการจะเป็นตัวกำหนดเนื้อหาความรู้และวิธีการสอน   หรือกิจกรรมการเรียนการสอนต้องสอดคล้องกับพัฒนาการและความสามารถของเด็กเป็นหลัก จึงได้แบ่งขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กปฐมวัยออกเป็น 3 ขั้นตอน
       1.  ขั้นการเรียนรู้ด้วยการกระทำ
       2.  ขั้นการเรียนรู้ด้วยภาพและจินตนาการ 
       3.  ขั้นการเรียนรู้ด้วยสัญลักษณ์
หลักการจัดประสบการณ์การเรียนรู้
       1. จัดประสบการณ์การเล่นและการเรียนรู้เพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์รวมอย่างต่อเนื่อง
       2. เน้นเด็กเป็นสำคัญ สนองความต้องการ ความสนใจ ความแตกต่างระหว่างบุคคล และบริบทของสังคมที่เด็กอาศัยอยู่
       3. จัดให้เด็กได้รับพัฒนาโดยให้ความสำคัญทั้งกับกระบวนการและผลผลิต  
แนวการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
       1. จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการ 
       2. จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้
       3. จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการ 
       4. จัดประสบการณ์ให้เด็กได้ริเริ่ม คิด วางแผน ตัดสินใจ ลงมือกระทำ และนำเสนอความคิด
       5. จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น กับผู้ใหญ่ 
       6. จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลายและอยู่ในวิถีชีวิตของเด็ก           
       7. จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลักษณะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้ชีวิตประจำวันและสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม   
       8. จัดสภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน ให้มีมุมเล่น หรือมุมประสบการณ์ หรือศูนย์การเรียนต่าง ๆ ให้เด็กได้มีโอกาสเล่นร่วมกับผู้อื่น

ข้อเสนอแนะของอาจารย์ : การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยจะเรียนรู้ผ่านการเล่น และความสนใจของเด็กปฐมวัยนั้นก็ขึ้นอยู่กับวัย ให้ศึกษาทฤษฎีการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย

กลุ่มที่ 4 รูปแบบการเรียนรู้นวัตกรรมการสอนโปรเจค (Project Approach)


      การสอนแบบโครงการ หมายถึง การจัดการเรียนการสอนรูปแบบหนึ่งซึ่งให้ความสำคัญกับเด็ก ส่งเสริมให้เด็กแสวงหาคำตอบจากการเรียนเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึกเพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยที่เด็กหรือครูร่วมกันกำหนดเรื่องที่ต้องการเรียนรู้ แล้วดำเนินการแสวงหาความรู้ด้วยกระบวนการแก้ปัญหา โดยครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและจากแหล่งเรียนรู้

แนวการเรียนการสอนแบบ Project Approach
โรงเรียนแนว Project Approach หรือการเรียนการสอนแบบโครงการ ได้นำแนวคิดของ John Dewey มาประยุกต์เป็นรูปแบบการเรียนการสอน
           แนว Project Approach หรือการเรียนการสอนแบบโครงการ เป็นการเรียนเพื่อสนองความต้องการของเด็ก ไม่มีการแข่งขัน แต่เป็นการเรียนแบบร่วมมือ เป็นนวัตกรรมทางการสอนที่บูรณาการการสอนหลายๆอย่างเข้าไว้ด้วยกัน เช่น
        - Child Center (การเรียนรู้ในลักษณะที่เด็กเป็นศูนย์กลาง)
        - Whole Language(การเรียนรู้ภาษาแบบธรรมชาติ)
        - High-Scope(การวางแผน ลงมือทำ และสรุปเองโดยเด็ก)
หลักการสำคัญของรูปแบบการสอนแบบโครงการ
        1. เด็กศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มลึก  จนพบคำตอบที่ต้องการ
        2. เรื่องที่เด็กศึกษาเป็นเรื่องที่เด็กเป็นผู้เลือกเองตามความสนใจ  เป็นประเด็นที่เด็กตั้งคำถามขึ้นมาเอง
        3. จัดกิจกรรมมุ่งให้เด็กได้มีประสบการณ์ตรงกับเรื่องที่เด็กศึกษา  โดยเปิดโอกาสให้เด็กได้สังเกตอย่างใกล้ชิด จากแหล่งความรู้เบื้องต้น
        4. ระยะเวลาแต่ละโครงการยาวนานอย่างเพียงพอตามความสนใจของเด็กเพื่อที่จะให้เด็กค้นพบคำตอบ  และคลี่คลายความสงสัยใคร่รู้
        5. จัดกิจกรรมให้เด็กได้ประสบกับทั้งความสำเร็จ  และความล้มเหลวในกระบวนการการแสวงหาความรู้ตามวิธีการของเด็กเอง
        6. เมื่อเด็กค้นพบคำตอบ  เปิดโอกาสให้เด็กนำความรู้ใหม่ๆที่ได้นั้นมาเสนอในรูปแบบต่างๆ ตามความต้องการของเด็กเอง  อาจเป็นการเขียน  การวาดภาพระบายสี  การสร้างแบบจำลอง  การเล่นบทบาทสมมติ  การแต่งนิทานหรือรูปแบบอื่นๆ
        7. เด็กเสนอความรู้ต่อเพื่อนๆ และคนอื่นๆอันแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกระบวนการศึกษาของตนเอง  และเกิดความภาคภูมิใจในความสำเร็จนั้น

วิธีจัดการเรียนการสอนมี 3 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 เริ่มต้นโครงการ
  • เด็กๆ เลือกว่าจะศึกษาเรื่องอะไร โดยครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ
  • เด็กๆ อภิปรายว่า มีความรู้เดิมอะไร เกี่ยวกับเรื่องที่เลือกแล้วบ้าง ครูช่วยให้เด็กๆบันทึกความคิดของเด็กๆ ด้วยวิธีต่างๆ เช่น วาด ปั้น จำลอง ฯลฯ (เล่าประสบการณ์เดิม)
  • เด็กๆบอกข้อสงสัยที่เด็กๆมีเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กๆจะเรียนรู้ และครูช่วยบันทึกคำถามเหล่านั้น
  • เด็กๆพูดคุยเกี่ยวกับว่าคำตอบที่เด็กๆจะสำรวจสืบค้นได้นั้น น่าจะเป็นอะไร อย่างไร ครูช่วยเด็กๆบันทึกความคาดคะเนของเด็กๆไว้ เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลในภายหลัง (คิดกิจกรรม)


ระยะที่ 2 ระยะพัฒนา
         ให้โอกาสเด็กค้นคว้า และมีประสบการณ์ใหม่เป็นงานในภาคสนาม  ประกอบด้วยการสืบค้นตามแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ระยะนี้ถือเป็นหัวใจของโครงการ ครูจะเป็นผู้จัดหา  จัดเตรียมแหล่งข้อมูลให้เด็กสืบค้น  ไม่ว่าจะเป็นจริง หนังสือ  วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆหรือแม้แต่การออกภาคสนามหรือไปศึกษานอกสถานที่  หรือนัดหมายผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรท้องถิ่น  เพื่อให้เด็กได้ทำการสืบค้น สังเกตอย่างใกล้ชิด  และบันทึกสิ่งที่พบเห็น เขียนภาพที่เกิดจากการสังเกต จัดทำกราฟ แผนภูมิ ไดอะแกรม  หรือสร้างแบบต่าง ๆ สำรวจ  คาดคะเน  มีการอภิปรายเล่นบทบาทสมมติเพื่อแสดงความเข้าใจในความรู้ใหม่ที่ได้


ระยะที่ 3 สรุปโครงการ
ประเมิน สะท้อนกลับ  และแลกเปลี่ยนงานโครงการเป็นระยะสรุปเหตุการณ์  รวมถึงการเตรียมเสนอรายงานและผลที่ได้ในรูปของการจัดแสดงการค้นพบ  และจัดทำสิ่งต่าง ๆ สนทนา  เล่นบทบาทสมมติ  หรือจัดนำชมสิ่งที่ได้จากการก่อสร้างครูควรจัดให้เด็กได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนเรียนรู้กับผู้อื่น  เด็กสามารถช่วยกันเล่าเรื่องการทำโครงการให้ผู้อื่นฟังโดยจัดแสดงสิ่งที่เป็นจุดเด่นให้เพื่อนในชั้นเรียนอื่น  ครู  พ่อ แม่ ผู้ปกครอง  และผู้บริหารได้เห็น  ครูจะช่วยเด็กเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาแสดง  ซึ่งการทำเช่นนี้เท่ากับช่วยให้เด็กทบทวนและประเมินโครงการทั้งหมด  ครูอาจเสนอให้เด็กใช้จินตนาการ ความรู้ใหม่ที่ได้ผ่านทางศิลปะ ทางละคร 


*ทุกครั้งที่จบโครงการจะต้องมีการไต่ตรองสารนิทัศน์
การเรียนการสอนแบบ Project Approach เป็นส่วนส่งเสริมให้เด็กได้มีการพัฒนาทักษะในทุกด้านดังนี้
  • การคิดอย่างมีเหตุมีผล                                 
  • การทำงานอย่างเป็นระบบ
  • การวางแผนการทำงาน                            
  • ภาษา การสื่อสาร
  • พัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ              
  • การคิดแก้ปัญหา
  • ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ                  
  • การแสดงความคิดเห็น กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก
  • มีความคิดรวบยอด                                                
  • การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
  • มีความกระตือรือร้นต่อการเรียนรู้ของสิ่งรอบตัว        
  • มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
  • มีความสุข สนุกสนานกับการเรียนรู้                   
  • เห็นคุณค่าในความคิดของตนเอง
การจัดการเรียนรู้แบบโปรเจค Project Approach 




ข้อเสนอแนะของอาจารย์ : รูปแบบการเรียนรู้แบบโครงการเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องพบเจออยู่บ่อยๆ และอาจมีโอกาสได้สอน อาจารย์จึงให้เราทบทวนกระบวนการต่างๆ และไม่ควรข้ามขั้นแม้แต่ขั้นเดียว เพื่อความสมบูรณ์ของโครงการ


Skills

       - ทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล

       - ทักษะการฟัง
       - ทักษะการต่อยอดความรู้
       - ทักษะการนำเสนอ
       - ทักษะการสรุปความรู้จากข้อมูล

Technique teaching
       - การบรรยายความรู้
       - การถามตอบเพื่อกระตุ้น
       - การสรุปความรู้อย่างเป็นรูปธรรม
Adoption
       -สามารถนำความรู้ที่เพื่อนนำเสนองานมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนและการทำงานได้อีกด้วย





Self assessment
  • เข้าเรียนตรงเวลา 
  • แต่งกายถูกระเบียบ 
  • มีส่วนร่วมในการเรียนการสอน

Evaluate friends
  • เข้าเรียนตรงเวลา
  •  ตั้งใจเรียน

Teacher Evaluation
  • เข้าสอนตรงเวลา แต่งกานสุภาพเหมาะสม
  • มีการวางแผนการสอน

Classify
  • ห้องเรียนสะอาดกว้าง  
  • บรรยากาศเหมาะสมกับการเรียน





วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

Record 1 Monday 15 January 2018

Record 1
Monday 15 January 2018





knowledge

สัปดาห์แรกของการจัดการเรียนการสอน อาจารย์ปฐมนิเทศนักศึกษาก่อนการเรียนการสอน โดยมีการแนะนำเกี่ยวกับรายวิชา สร้างข้อตกลงในการเข้าห้องเรียน 

อาจารย์มอบหมายงาน กลุ่มละ 2-3 คนนำเสนอสัปดาห์ถัดไป มีหัวข้อดังนี้
  • พัฒนาการและคุณลักษณะตามวัยของเด็กปฐมวัย (กลุ่มดิฉัน)
  • การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
  • ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย
  • รูปแบบการเรียนรู้นวัตกรรมการสอนแบบโครงการ
  • รูปแบบการเรียนรู้แบบมอนเตสซอรี่


จุดมุ่งหมายของรายวิชา


1. ทักษะด้านคุณธรรมจริยธรรมมีวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบ

2. ทักษะด้านความรู้มีความรู้ ความเข้าใจ และจัดประสบการณ์การสอนสำหรับเด็กปฐมวัยได้

3. ทักษะทางปัญญาสามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ วิเคราะห์ปัญหา สรุปปัญหา เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้

4. ทักษะด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบสามารทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ให้ความช่วยเหลือร่วมมือแก้ปัญหาทั้งบทบาทการเป็นผู้นำและผู้ร่วมงาน

5. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีทักษะการใช้เครื่องมือที่จำเป็นในปัจจุบันเพื่อการศึกษาค้นคว้า

6. ทักษะการจัดการเรียนรู้ มีความสามารถออกแบบการจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย เขียนแผนการจัดประสบการณ์ที่บูรณาการและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้

Skills

  • ทักษะการฟัง
  • ทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล
  • ทักษะการสรุปความรู้จากข้อมูล
  • ทักษะการต่อยอดความรู้
  • ทักษะการนำเสนอ
  • ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ
  • ทักษะการคิดอย่างมีแบบแผน

Adopt

  • สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการศึกษาต่อไปได้

Self assessment

  • เข้าเรียนตรงเวลา 
  • แต่งกายถูกระเบียบ 
  • มีส่วนร่วมในการเรียนการสอน

Evaluate friends

  • เข้าเรียนตรงเวลา
  •  ตั้งใจเรียน

Teacher Evaluation

  • เข้าสอนตรงเวลา แต่งกานสุภาพเหมาะสม
  • มีการวางแผนการสอน

Classify

  • ห้องเรียนสะอาดกว้าง  
  • บรรยากาศเหมาะสมกับการเรียน

Record 15 Tuesday 3 may 2018

Record 15 Tuesday 1 may 2018 knowledge  อาจารย์แนะนำการเก็บผลงานของการฝึกสอน แนะนำเนื้อหาอ้างอิงจากหลักสูตรปฐมวัย 2560 แนะแนว...

My Melody Kawaii My Melody Kawaii